9 แนวคิดต้นแบบที่เราอยากชวนคุณมาช่วยกัน เปลี่ยนออฟฟิศให้น่าอยู่อย่างยั่งยืน
- admin
- น้องดิน



.
ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติปี 2566 ระบุว่าแรงงานในระบบที่ได้รับความคุ้มครองตามหลักประกันทางสังคมมีอยู่ประมาณ 19 ล้านคน ซึ่งคนเหล่านี้ล้วนมีสถานที่ทำงานเป็นหลักแหล่ง ไม่ว่าจะเป็นโรงงานหรือออฟฟิศก็ตาม
.
คนโดยทั่วไปใช้เวลาอยู่ในสถานที่ทำงานเฉลี่ยสัปดาห์ละ 5 วัน วันละ 8-10 ชั่วโมง คิดเร็วๆ ก็เท่ากับว่าใน 1 เดือนต้องอยู่ในออฟฟิศประมาณ 200 ชั่วโมง ใน 1 ปีรวมๆ แล้วก็ไม่น้อยกว่า 2000 ชั่วโมงเลยทีเดียว เรียกได้ว่าเราใช้เวลาในสถานที่ทำงานกันไม่น้อยหรืออาจจะมากกว่าอยู่บ้านด้วยซ้ำ
.
โดยแต่ละออฟฟิศหรือสถานที่ทำงานของแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมก็จะต้อง
เตรียมอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงาน รวมถึงการสร้างบรรยากาศเพื่ออำนวยความสะดวกในรองรับให้คนจำนวนมากมาอยู่ร่วมกัน
.






เพื่อเป็นการให้กำลังใจผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยการสนับสนุนทางบวกที่จะช่วยปรับเปลี่ยนแนวคิดและพฤติกรรมในองค์กรภาพรวม

ก่อนที่เริ่มต้นแอคชันใดๆ อย่างแรกที่ต้องมองให้เห็นร่วมกันคือจำนวนขยะที่แต่ละออฟฟิศผลิตมามีข้อไหนบ้างที่สามารถทดแทนด้วยทางออกอื่นที่ยั่งยืนมากกว่า เช่น แก้วกระดาษใช้แล้วทิ้งหรือจานพลาสติก เพื่อนำไปสู่การหาทางแก้ไขที่ช่วยลดปริมาณขยะที่ไม่จำเป็นเหล่านี้ลง หลังจากนั้นจึงเก็บรวบรวมข้อมูลที่ได้จากการตั้งแนวทางปฏิบัติใหม่ทำการประเมินผลการดำเนินงานและวัดผลลัพธ์จากแอคชันที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม

องค์กรสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงในภาพรวมได้ด้วยการระบุสิ่งที่ต้องการให้พนักงานทำให้ชัดเจน โดยจัดหาเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ช่วยสนับสนุนให้เกิดการปฏิบัติ สร้างความรู้ความเข้าใจเพื่อให้ทุกคนในองค์กรมั่นใจที่จะร่วมด้วยช่วยกันโดยไม่ลังเล

เทคโนโลยีดิจิทัล ทำให้เราสามารถทำงานบนโลกออนไลน์กันมากขึ้น เป็นการช่วยลดการใช้ทรัพยากรกระดาษที่นอกจากต้องการพื้นที่จัดเก็บ ทั้งยังประหยัดค่าหมึกพิมพ์ และที่สำคัญช่วยรักษาต้นไม้ให้ไม่ถูกโค่นนำมาเป็นกระดาษที่เราใช้ๆ อยู่ไม่กี่ครั้งนั่นเอง

อาหารกลางวันเป็นมื้อที่พนักงานจะได้ใช้เวลาพักกินข้าวร่วมกัน การที่ในห้องครัวของออฟฟิศเตรียมจาน ชาม ช้อน ส้อม ที่สามารถเก็บล้างนำมาใช้ต่อได้ จึงช่วยลดการทิ้งวัสดุที่ไม่จำเป็นในแต่ละวัน รวมๆ กันก็เป็นทรัพยากรจำนวนมหาศาลในแต่ละปีที่จะช่วยโลกของเรา

ขวดพลาสติจำนวนมากที่ถูกทิ้งกลายเป็นขยะในแต่ละวันจะลดลงทันทีเมื่อมีจุดเติมน้ำ ทั้งยังช่วยเซฟเงินในกระเป๋าพนักงานที่ต้องซื้อน้ำขวดมาดื่มเองทุกวันๆ ได้อีกทาง

การจัดสรรพื้นที่สำหรับวางถังหมักขยะอินทรีย์ที่เกิดขึ้นภายในออฟฟิศ โดยนำมาเป็นปุ๋ยใช้สำหรับต้นไม้ สร้างพื้นที่สีเขียวสำหรับพักผ่อนสายตาหลังจากจ้องหน้าจอนานๆ ทั้งยังเป็นการช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่จะเกิดจากขยะอินทรีย์เหล่านี้เมื่อถูกนำไปฝังได้อีกทาง

ร่วมกันกำหนดเป้าหมายในการรีไซเคิลด้วยการแข่งขันกันเองภายในองค์กร เพื่อทำให้เกิดความสนุกสนานและสร้างความท้าทาย เช่น การวัดจำนวนการใช้ถุงพลาติกในแต่ละวัน ใครแพคอาหารในกล่องมารับประทานจะได้แต้มพิเศษ โดยมีของรางวัลเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่สร้างการเปลี่ยนแปลงได้อย่างต่อเนื่อง

เป็นต้นทุนที่ต้องมีเรื่องงบประมาณและเวลาเข้ามาเกี่ยวข้อง การให้สร้างความตระหนักผ่านการอบรมจากผู้เชี่ยวชาญ การเตรียมความรู้และถังขยะที่เหมาะสมกับการแยกประเภท ซึ่งเมื่อพนักงานมีองค์ความรู้ที่ถูกต้องนี้ติดตัวไปแล้ว สามารถนำไปถ่ายทอดต่อให้กับคนใกล้ตัวหรือนำไปประยุกต์ใช้ในครัวเรือนต่อไป
.
.
.
ทั้งนี้การจะสร้างแรงจูงใจให้องค์กรหรือห้างร้านต่างๆ หันมาสร้างบรรยากาศเพื่อลดการสร้างผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมก็อาจต้องใช้แรงสนับสนุนจากภาครัฐ (นโยบายทางภาษีหรือเงินอุดหนุน) ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นและสร้างความร่วมมือในระดับประเทศทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจนและยั่งยืนต่อไป
—————————————–

#ลดขยะและรักษ์โลกได้มากขึ้น จากแบรนด์ RAAKDIN
Line : @Raakdin
Tel : 086-342-2498
LESS WASTE, MORE VALUE
Facebook
Email
Related Posts
Elementor #4147
จากเศษอาหาร…สู่ภาพลักษณ์องค์กรรักษ์โลก RAAKDIN BIO3 นวัตกรรมสำหรับองค์กร จากเศษอาหาร…สู่ภาพลักษณ์องค์กรรักษ์โลก RAAKDIN BIO3 นวัตกรรมสำหรับองค์กรที่ต้องการจัดการขยะเศษอาหาร ให้กลายเป็น “ทรัพยากร” ไม่ใช่ “ภาระ” ใช้งานง่ายในครัวของออฟฟิศ หรือโรงอาหาร ตอบโจทย์นโยบาย ESG | SDG12 | Zero

[Unbox] จากเพจ AfterTaste RAAKDIN 3L รุ่นใหม่ ถังใหญ่ใส่เศษอาหารได้จุใจกว่าเดิม
#น้องดินขอแชร์ [Unbox] เครื่องกำจัดเศษอาหารเป็นปุ๋ยรุ่นใหม่ | หม้อใหญ่ใส่ได้จุใจกว่าเดิม | RAAKDIN 3L จากเพจ AfterTaste พี่ๆคนไหนกำลังศึกษาเรื่องเครื่องย่อย ถือว่าดูคลิปนี้ แล้วได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แน่นอนครับ…ไปดูกันเลย